ระบบประกันสังคมไม่เท่าเทียมกับระบบประกันสุขภาพ
ไม่ใช่รอจนคนมาประท้วงว่าทำไมเขาไม่ได้สิ่งที่ควรได้เหมือนกับอีกกลุ่มหนึ่ง เขาก็ต้องจ่ายเงินสมทบ 5 % เขาก็ไม่มีสิทธิเลือกโรงพยาบาล เงินจำนวนมากก็ไปอยู่กับโรงพยาบาลเอกชนที่จ่ายเหมารายหัวและก็ไม่ได้คืน เมื่อระบบมันลักลั่นกัน ผู้บริหารประเทศที่ดูแลเรื่องสุขภาพก็รู้อยู่แล้ว ว่าระบบมันลักลั่นกันมาก เมื่อมันมีหลายระบบเหลือเกิน แน่นอนรอยต่ออาจจะทำทันทีให้ทุกคนมีระบบเดียวกันไม่ได้ แต่มันต้องมีแผนในการเดินหน้าอย่างรวดเร็วว่าจะขยับอย่างไร เพื่อทำให้ระบบทั้งระบบเป็นระบบเดียวกันหมด ไม่ต้องรอให้คนมาประท้วง
ผมยกปัญหาใหญ่ในสังคมไทย คือต้องรอหลังชนฝาแล้วค่อยแก้ปัญหา ไฟลนก้นแล้วค่อยลุกขึ้นมาทำอะไร แล้วปัญหาจำนวนมากสร้างความเดือดร้อนหรือความรู้สึกไม่ดีให้กับประชาชนโดยไม่จำเป็นเลย เมื่อรู้อยู่แล้วก็เดินหน้าเต็มที่แก้ปัญหาตั้งแต่ต้น เพื่อป้องกันปัญหามากกว่าตามแก้ปัญหา และนี่ตัวอย่างนิสัยของการบริหารในสังคมไทยที่ผมอยากฝาก ผมเห็นใจอยู่นะครับว่าผู้ทำงานบางครั้งก็อาจจะงานเยอะและก็อาจจะมีเรื่องมากมายต้องพิจารณา แต่เราต้องคำนึงครับ ระบบใหญ่ๆ แบบนี้ต้องรีบวางแผน และผมไม่อยากเห็นสังคมไทยอยากได้อะไรต้องมาประท้วง ต้องมาแสดงความไม่พอใจ ถึงจะได้รับความสนใจ
มันก็เกิดวัฒนธรรมที่ไม่มีประสิทธิภาพขึ้นมาว่า อยากให้ได้รับความเห็นใจ การแก้ปัญหาต้องมาประท้วงและแสดงออกรุนแรง ต้องให้สื่อมาถ่ายทำ ต้องให้สื่อเขียนถึง ต้องให้เป็นประเด็นกระแสถึงจะได้รับการแก้ไข นี่คือตัวอย่างของเรื่องที่เราขาดการบริหารจัดการอย่างมองการณ์ไกล ป้องกันปัญหาอย่างเป็นระบบ อย่างมีกลยุทธ์และแผนงานมากและรวดเร็วเพียงพอ และไปรอให้เกิดปัญหา ผมว่าไม่ควรเกิดอย่างนี้อีกแล้วในเรื่องต่างๆ การบริหารที่ดีจะต้องวัดประสิทธิภาพด้วยการป้องกันปัญหาให้มากๆ ด้วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น